ปี 2024 เป็นปีที่เรียกได้ว่าเทรนด์การตกแต่งมีความหลากหลายมาก ไม่ได้เทน้ำหนักไปที่สไตล์ใดสไตล์หนึ่ง และหากพูดถึงภาพรวม เราจะสังเกตเห็นได้ว่า งานดีไซน์จะยังคงเน้นไปที่ความเป็นธรรมชาติที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ Space หรือดีไซน์มีความอบอุ่นผ่อนคลาย ในขณะเดียวกันก็มีดีเทลที่เรียบง่ายในแบบฉบับของสไตล์ Modern มากขึ้น ซึ่งช่วยทำให้งานดีไซน์ดูสวยงามได้นาน ไม่เก่าเร็ว

สไตล์ที่มีลักษณะเกี่ยวข้อง เช่น Modern Tropical เน้นความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย Japandi มีความเรียบง่าย ใช้องค์ประกอบน้อย ๆ แต่มีดีเทลในตัวเองใกล้เคียงกับงาน Modern Minimal สไตล์ Scandinavian ที่เน้นไปที่ความเรียบง่ายขั้นสุดแต่ทุก ๆ องค์ประกอบใช้งานได้จริงและเน้นบรรยากาศของบ้านที่อบอุ่น ฯลฯ

ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเทรนด์ที่เราเห็นกันมาหลายปี และยังคงเป็นที่นิยมมาก ๆ ในปี 2024 ที่ผ่านมา และมองว่าจะยังคงเป็นที่นิยมต่อเนื่องในปี 2025 เช่นกัน โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น รูปแบบ แพทเทิร์นหรือคาแรกเตอร์ของวัสดุที่หยิบมาใช้ รวมไปถึงเทคโนโลยีวัสดุใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาช่วยลดข้อจำกัดของวัสดุเดิม ๆ ให้งานดีไซน์มีคุณภาพที่ดีมากขึ้น

ซึ่ง DECAAR by SCG ได้สรุปเทรนด์ในปี 2024 และวิเคราะห์เทรนด์ใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2025 มาให้แล้ว หากได้อัปเดตข้อมูลและเทรนด์ใหม่ ๆ ก่อนใคร ก็จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้งานดีไซน์ในปี 2025 โดดเด่นและน่าสนใจกว่าเดิมได้



Recap เทรนด์ฟาซาดปี 2024 ยอดนิยม
ในปี 2024 งานดีไซน์ฟาซาดที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปีนั้นมีความหลากหลาย ไม่ได้ตายตัวว่าเป็นสไตล์ใดสไตล์หนึ่งชัดเจน แต่กลับเป็นงานที่มีการผสมผสานและ Match หลาย ๆ สไตล์เข้าด้วยกัน โดยมีสไตล์ Modern Tropical เป็น Main Concept หลัก

สไตล์ Modern Tropical นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่เพียงบรรยากาศหรือลักษณะของวัสดุตกแต่งที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติที่เรียบง่าย เช่น ลายไม้หรือลายหินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงลักษณะงานดีไซน์ที่ช่วยให้เกิดภาวะน่าสบาย และตอบโจทย์สภาพอากาศประเทศไทยได้อย่างดี เช่น ดีไซน์ระแนงที่ช่วยแบ่งพื้นที่ พรางสายตา บังแดดเล็กน้อย และยังคงให้ลมถ่ายเทตลอดทั้งวัน

Modern Tropical เป็น Main Concept ในการดีไซน์ฟาซาดของปี 2024 ก็จริง แต่เรายังสามารถลงรายละเอียดและจำนวนเทรนด์งานดีไซน์ตลอดปี 2024 ให้แยกย่อยและเห็นภาพมากขึ้น ดังนี้



เทรนด์ตกแต่งสไตล์ธรรมชาติ เน้นบรรยากาศจากวัสดุที่มีลวดลาย Texture เสมือนจริง
เทรนด์นี้คืองานดีไซน์ที่หยิบเอาวัสดุตกแต่งที่มี Texture แพทเทิร์น ลวดลายและสีสันที่เสมือนวัสดุธรรมชาติจริงมาตกแต่งฟาซาด ผนัง ฝ้าเพดาน หรือรั้วของอาคาร การนำวัสดุตกแต่งที่มีความเสมือนจริงมากใช้งานเป็นการสร้างความเชื่อมโยงและบรรยากาศให้อาคารใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบตัวมากขึ้นได้



เช่น การใช้ผนังตกแต่งลายไม้ อย่าง “ผนังตกแต่ง เคมิว (KMEW) ลายไม้” หรือ “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โคเต้ และวูด-ดี (SCG Coate’ & Wood-D)” รวมไปถึง “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูดโค้ท ซีรีย์ (SCG Wood Coat Series)” ซึ่งให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายและเป็นมิตรกับทุกคน



หรือผนังตกแต่งลายหินที่ให้คาแรกเตอร์เข้มเท่ ดูทันสมัย แต่ก็ยังเชื่อมต่อกับธรรมชาติผ่านลวดลายหินอยู่ ให้บรรยากาศไม่แข็งกระด้างหรือแบนจนเกินไป

โดย DECAAR by SCG มีผนังตกแต่งลายหินให้เลือกหลากหลาย เช่น “ผนังตกแต่ง เคมิว (KMEW) ลายหิน” หรือ “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น สโตนโค้ท ซีรีย์ (SCG Stone Coat Series)” ที่มีลายเกล็ดหิน Terrazzo เสมือนจริง



เทรนด์เชื่อมโยงกับธรรมชาติผ่านฟาซาดกระจกบานใหญ่ ที่ให้ภายในและธรรมชาติใกล้ชิดกัน
ในงานที่ต้องการความโปร่งเบา การออกแบบฟาซาดให้เป็นกระจกโปร่งแสงบานใหญ่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยนำมา Match หรือดีไซน์สัดส่วนเข้ากับวัสดุอื่น ๆ เพื่อให้ความอบอุ่นผ่อนคลายยังคงมีอยู่

ข้อดีของการดีไซน์ฟาซาดเป็นกระจกบานใหญ่ คือดีไซน์จะมีความ Modern โปร่งและเรียบง่ายขึ้นมาก พื้นที่ใช้งานภายในจะถูกขยายมุมมองให้กว้างทำให้มองเห็นวิวธรรมชาติภายนอกได้มากขึ้น ช่วยลดขอบเขตระหว่างพื้นที่ภายในบ้านและธรรมชาติภายนอกให้รู้สึกใกล้ชิดกลมกลืนกันมากขึ้น

ในงานไหนที่ต้องการการใช้งานที่ยืดหยุ่น ก็สามารถเลือกกระจกที่เป็นบานเลื่อนที่สามารถเปิดรับลมในวันที่อากาศดี ๆ หรือปิดในวันที่ต้องการความเป็นส่วนตัวก็ได้ เป็นหนึ่งทางเลือกที่นอกจากจะเข้ากับเทรนด์สไตล์ธรรมชาติที่ได้ไปต่อในปี 2025 แล้ว ยังเป็นสไตล์ที่เข้ากับสภาพอากาศและลักษณะการใช้งานอาคารของคนไทยด้วย



เทรนด์ตกแต่งพรางตาแต่ไม่บังลม เพิ่มความเป็นส่วนตัวแบบฉบับบ้านเมืองร้อน
เทรนด์ดีไซน์ฟาซาดให้พรางตาแต่ไม่บังลม เป็นเทรนด์ที่เหมาะกับทั้งสภาพอากาศประเทศไทยและการใช้งานภายในอาคารอย่างมาก เพราะระแนงที่มีระยะช่องว่างของ Solid & Void ที่สม่ำเสมอ จะช่วยพรางสายตาจากภายนอกได้ดี ทำให้คนที่อยู่ภายในใช้งานได้ถึงความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น

ในขณะเดียวกันภายในอาคารก็ยังมองเห็นวิวภายนอกได้ ไม่รู้สึกอึดอัด ทั้งช่องว่างที่เกิดขึ้นนี้ยังช่วยให้อากาศและลมถ่ายเทได้ตลอดทั้งวัน ทำให้เกิภาวะน่าสบายเกิดขึ้นในอาคาร

โดยสามารถเลือกใช้ “ระแนงอลูมิเนียมตกแต่ง เอสซีจี รุ่น อลู-เอ็กซ์ (SCG ALU-X)” ในงานที่ต้องการระแนงสีสำเร็จหรือลายไม้เป็นธรรมชาติ น้ำหนักเบาติดตั้งง่าย และ “ระแนงตกแต่ง เอสซีจี รุ่น ไลน์ (SCG Line)” ในงานที่ต้องการทาสีระแนงเอง



เทรนด์สร้างมิติและแพทเทิร์นให้อาคารสูงด้วยระแนงตกแต่ง
ระแนงตกแต่งไม่ได้ถูกหยิบมาใช้แค่ในงานระแนงพรางตาเท่านั้น แต่ยังถูกหยิบมาใช้ในงานดีไซน์ฟาซาดสำหรับอาคารสูงด้วย เนื่องจากระแนงมีน้ำหนักเบาทำให้สามารถติดตั้งได้สะดวกมากกว่า รวมถึงระแนงไม่เพิ่มภาระให้กับโครงสร้างของอาคารทำให้ทั้งฟาซาดและอาคารแข็งแรงใช้งานได้นาน

ซึ่งวัสดุที่นิยมและตอบโจทย์งานดีไซน์ฟาซาดอาคารสูงได้ดี คือ ระแนงอลูมิเนียมตกแต่ง เพราะมีน้ำหนักเบา สามารติดตั้งได้บนความสูง 20 เมตรหรือมากกว่านั้นได้ มีความแข็งแรงทนทานสูง อายุการใช้งานนานเป็น 10 ปี ที่สำคัญคือเป็นวัสดุตกแต่งทำสีและลวดลายสำเร็จมาจากโรงงาน ทั้งยังไม่เป็นสนิมทำให้ Maintenance ง่าย

“ระแนงอลูมิเนียมตกแต่ง เอสซีจี รุ่น อลู-เอ็กซ์ (SCG ALU-X)” ที่มีมาตรฐานมอก. และมาตรฐานสากล (JIS) จึงถูกหยิบมาใช้งานบ่อย ๆ ในการตกแต่งในอาคารสูงที่ต้องการเพิ่มมิติให้กับอาคาร



เทรนด์ตกแต่งสไตล์ Modern เรียบเท่เป็นเอกลักษณ์ด้วยแพทเทิร์นไม่เหมือนใคร
อีกเทรนด์ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือเทรนด์การตกแต่งสไตล์ Modern ที่เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก แต่องค์ประกอบตกแต่งก็จำเป็นต้องมีดีเทลที่น่าสนใจในตัวเองด้วย และยิ่งเป็นดีเทลเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครก็จะยิ่งขับเน้นให้งานดีไซน์สวยจบในตัว และเผยความโดดเด่นสไตล์ Modern ออกมาได้

ผนังตกแต่งจาก DECAAR by SCG ที่มีแพทเทิร์นและสีสันโทนเข้มที่แปลกใหม่ตอบโจทย์เทรนด์นี้ได้ดี เช่น “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โมดิน่า (SCG Modeena)” ที่มีโปรไฟล์เซาะร่องเส้นตรง ดู Modern และมีมิติ “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น โมดิช-วี และ โมดิช-ยู (SCG Modish-V and Modish-U)” กับโปรไฟล์สามเหลี่ยมและครึ่งวงกลมที่ไม่ซ้ำใคร โดยมีทั้งสีสำเร็จจากโรงงานมาตรฐาน SCG ให้เลือกใช้ หรือหากใครต้องการทำสีเอง ก็สามารถนำไปทำสี พ่น Texture ที่ต้องการได้เอง

แต่หากต้องการเพิ่มดีเทลให้งานด้วยวัสดุที่มี Texture และลวดลายเฉพาะตัว สามารถนำ “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูดโค้ท และ สโตนโค้ท ซีรีย์ (SCG Wood Coat & Stone Coat Series)” ที่มีลายไม้สวยงามและเกล็ดหิน Terrazzo เท่ ๆ มาตกแต่งฟาซาดอาคารสไตล์ Modern ได้ โดยมีให้เลือกใช้ทั้งโปรไฟล์ Modeena และ Modish



เทรนด์ตกแต่งที่เพิ่มความเท่ให้งานดีไซน์ผ่านเฉดสี Dark Monochrome
เทคนิคหนึ่งที่ช่วยทำให้งานดีไซน์มีความเท่สุขุมขึ้น คือการเลือกใช้เฉดสีที่เข้มขึ้นกว่าเดิม เช่น ในเฉดสีเทากลาง - เข้ม ไปจนถึงสีดำ ร่วมกับแพทเทิร์นตื้นลึกที่เล่นแสงเงา หรือลวดลายที่มี texture จะช่วยเพิ่มความเท่และมิติให้งานดีไซน์ได้มากขึ้น

โดยการใช้สี Dark Monochrome ในงานดีไซน์สามารถ Match ได้หลากหลาย หากต้องการให้งาน Modern สามารถตกแต่งร่วมกับกระจก กรอบบานสีเข้มในโทนใกล้เคียงกัน ใช้ในงานที่ต้องการโชว์ความเรียบหรูทันสมัย ก็สามารถใช้คู่สีสว่าง เช่น ขาว ครีมหรือเบจ มา Match กับสีเข้มเหล่านี้ได้ จะช่วยสร้าง Contrast ให้งานมีเส้นสายคลีนและคมชัดมากขึ้น

หรือถ้าใครที่ต้องการให้งานเท่แต่ไม่แข็งเกินไป ก็ยังสามารถนำมา Match กับวัสดุโทนธรรมชาติ เช่น ไม้สีน้ำตาลได้ จะปรับให้งานดีไซน์มีความผสมผสานและดูเป็นมิตรมากขึ้นได้ “ผนังตกแต่ง เคมิว (KMEW) ลายหินหรืออิฐ” เฉดสีเข้ม ไปจนถึง “ระแนงอลูมิเนียมตกแต่ง เอสซีจี รุ่น อลู-เอ็กซ์ (SCG ALU-X) ในโทนสีมาตรฐานอย่าง สี Black หรือ Sahara Grey” ก็สามารถเสริมให้อาคารมีความเรียบเท่ แต่มีดีเทลที่เด่นชัดในตัวเองขึ้นได้อีก



เทรนด์ตกแต่งฟาซาดไหนได้ไปต่อในปี 2025?
หลังจากนี้เทรนด์ตกแต่งฟาซาดที่เป็นที่นิยมมาตลอดปี 2024 เทรนด์ไหนบ้างที่จะได้ไปต่อ และจะมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงรูปแบบงานตกแต่งฟาซาดไปในทิศทางใดบ้าง ไปดูกัน



เน้นดีไซน์แพทเทิร์นสะดุดตา สวยจบในตัว แทนการใช้องค์ประกอบตกแต่งเยอะ ๆ
การเลือกใช้วัสดุตกแต่งฟาซาดที่มีแพทเทิร์นสะดุดตา สวยจบในตัวและมีเอกลักษณ์ชัดเจน จะยังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2025

โดยงานดีไซน์จะโชว์แพทเทิร์นที่ให้เอฟเฟคแสงเงาน่าสนใจ แทนการใช้องค์ประกอบตกแต่งเยอะ ๆ เพื่อลดความฟุ้งเฟ้อของงานดีไซน์ และทำให้อาคารมีความ Modern องค์ประกอบน้อยแต่เต็มไปด้วยดีเทล เป็นเทคนิคที่สร้างความสวยงามให้กับอาคารลงตัวไม่มากหรือน้อยจนเกินไป



เปลี่ยนจากบรรยากาศอบอุ่นของไม้ เป็นความเรียบหรู Modern จากลายหิน
เทรนด์ตกแต่งฟาซาดสไตล์ Modern ที่เน้นความทันสมัยและความอบอุ่นของลายไม้จะยังคงอยู่ แต่ในหลายโปรเจ็กต์จะเริ่มมีการหยิบหินมาใช้แทนไม้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมไปถึงค่อย ๆ ขยายไปตามพื้นที่รอบข้าง

ซึ่งการเปลี่ยนจากการตกแต่งฟาซาดสไตล์ไม้ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย มาเป็นฟาซาดลายหินที่เรียบหรู จะช่วยเปลี่ยนคาแรกเตอร์ของอาคารให้มีความเรียบ เท่ หรูหรา และสุขุมสง่างามมากขึ้นได้นั่นเอง



สำหรับวัสดุตกแต่งฟาซาดหรือผนังตกแต่งที่มีลวดลายหินจาก DECAR by SCG ที่เข้าได้ดีกับเทรนด์ตกแต่งในปี 2025 เช่น ผนังตกแต่ง เคมิว (KMEW) ลายหิน ที่มีหลากหลายแพทเทิร์นเเละสีสันให้เลือกใช้ ด้วยแพทเทิร์นมีความชัดเจนทำให้ได้ลวดลายหินที่ดูพรีเมียมเสมือนจริง




และ “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น สโตนโค้ท ซีรีย์ (SCG Stone Coat Series)” ผนังตกแต่งซีรีย์ใหม่ โชว์ลวดลายเกล็ดหิน Terrazzo เป็นธรรมชาติ ผ่าน 3 โปรไฟล์ คือ Modeena M4, Modish-V และ Modish-U ใน 3 เฉดสี คือ Off White, Ivory White และ Dark Grey



ส่วนผนังตกแต่งที่มีลวดลายไม้สำหรับงานดีไซน์ที่ยังต้องการนำเสนอความอบอุ่นเอาไว้ สามารถใช้ “ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูดโค้ท ซีรีย์ (SCG Wood Coat Series)” ที่มี 2 โปรไฟล์ คือ Modeena M1 และ Modeena M4 ใน 3 เฉดสีคือ White Oak, Sandalwood และ Wenge ไปใช้งาน ก็จะช่วยเน้นภาพลักษณ์ที่ดูอบอุ่นแต่ก็มีความ Modern ทันสมัยได้เช่นกัน



ลดการทำสีเองที่หน้างาน เป็นการใช้วัสดุตกแต่งทำสีและลวดลายสำเร็จจากโรงงาน
เทรนด์การตกแต่งฟาซาดที่จะเปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นมากในปี 2025 อีกเทรนด์หนึ่ง คือ ดีไซน์เนอร์จะเปลี่ยนจากการตกแต่งเองที่หน้างาน เช่น การทาสี พ่น texture หรือเซาะร่องเอง มาเป็นการใช้วัสดุตกแต่งที่ทำสีและลวดลายสำเร็จมากขึ้น

ซึ่งการใช้วัสดุตกแต่งฟาซาดสำเร็จนี้มีข้อดีหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็น การทำให้ได้งานที่มีคุณภาพ คือ สีสันลวดลายและจังหวะแพทเทิร์นต่าง ๆ สม่ำเสมอ มีความทนทานไม่ต้อง maintenance บ่อย ๆ สามารถติดตั้งได้ง่ายช่วยลดระยะเวลาทำงานลงได้ อีกทั้งยังให้ความเสมือนจริงมากกว่าการนั่งทำสีหรือทำลวดลายเอง



เช่น ผนังตกแต่ง เคมิว (KMEW) ที่ผลิตจากไฟเบอร์ซีเมนต์คุณภาพดี มีสีสันและลวดลายสำเร็จให้เลือกหลากหลาย ทั้งลายไม้ หิน อิฐและคอนกรีต และยังมีเทคโนโลยีทำความสะอาดตัวเองได้ช่วยให้ฟาซาดสวยเหมือนใหม่ได้นานหลาย 10 ปีด้วย



นอกจากนี้ยังมีผนังตกแต่งทำสีสำเร็จอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน เช่น ผนังตกแต่ง เอสซีจี รุ่น วูดโค้ท และ สโตนโค้ท ซีรีย์ (SCG Wood Coat & Stone Coat Series) และระแนงอลูมิเนียมตกแต่ง เอสซีจี อลู-เอ็กซ์ (SCG ALU-X) ที่มี 4 สีมาตรฐานและ 4 ลายไม้เอกสิทธิ์เฉพาะจาก SCG ให้เลือกใช้ ช่วยเสริมรูปลักษณ์และดีไซน์ฟาซาดลายไม้ให้ดูอบอุ่นสมจริง โดยไม่ต้องทำสีหรือวาดลวดลายเองให้เสียเวลา



ในภาพรวมของปี 2024 งานตกแต่งฟาซาดที่ผ่านมามีความหลากหลายมาก หลายเทรนด์โดยเฉพาะสไตล์ Modern จะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในปี 2025 โดยจะมีการนำแพทเทิร์นลายหินเข้ามาใช้งานมากขึ้นเพื่อสร้างงานดีไซน์ที่มีความเรียบเท่เป็นธรรมชาติ

ในขณะเดียวกันบทบาทของวัสดุที่ทำสีสำเร็จและผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งผลให้วัสดุมีความแข็งแรงทนทานและช่วยลดข้อจำกัดของวัสดุเดิม ๆ ลงได้ จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากใช้เวลาในการติดตั้งน้อยลงและเป็นการลงทุน 1 ครั้งที่คุ้มค่าในระยะยาว

และในปี 2025 จะมีเทรนด์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเกิดขึ้นมาอีก สามารถติดตามเรื่องราวน่าสนใจ อัปเดตเทรนด์งานดีไซน์หรือวัสดุตกแต่งฟาซาดใหม่ ๆ ตลอดทั้งปีได้เพิ่มเติมผ่านทางเฟสบุคเพจ DECAAR by SCG และเว็บไซต์: www.decaarbyscg.com